ศ. 1560 ทำให้หลวงพระบางเป็นเมืองหลวงทางเหนือมีเชื้อพระวงศ์ล้านช้างปกครอง จนกระทั่งกลับมาเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบางอีกครั้งในสมัยที่ลาวแตกเป็นสามอาณาจักร และอยู่ในความคุ้มครอง (Protectorate) ของฝรั่งเศส ภายหลังสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ใน ค.
วธ. "บทเรียนในการมาเยือนหลวงพระบางในครั้งนี้ก็ทำให้ได้ประโยชน์ในด้านการจัดการบริหาร และการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป และประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าศึกษา นอกจากนี้ไทยเองก็จะมีการเสนอเมืองให้ขึ้นมรดกโลกหลายแห่ง ทั้งเมืองเชียงใหม่, พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช, พระธาตุพนม, อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งอยู่ในขั้นการดำเนินการบัญชีเบื้องต้น และที่กำลังจะเสนอคือ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ที่ต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ การศึกษาแนวทางจัดการ เพื่อรักษาเมืองมรดกโลกจึงเป็นเรื่องสำคัญ "รมว. วธ.
หลวงพระบางเป็นเมืองเก่าแก่เป็นราชธานีแห่งแรกของ อาณาจักรล้านช้าง สมัยแรกเริ่มสถาปนาอาณาจักรล้านช้าง แต่เดิมมีชื่อว่า "เมืองซวา" (ออกเสียงว่า ซัว) และเมื่อ พ. ศ. 1300 ขุนลอซึ่งถือเป็นปฐมกษัตริย์ลาวได้ทรงตั้งเมืองซวาเป็นราชธานีของอาณาจักรล้านช้างและได้เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น " เชียงทอง " เมื่อ พระเจ้าฟ้างุ้ม (พ. 1896 - พ.
2091 แต่เดิมแล้ว บริเวณที่ตั้งของวัดเคยเป็นที่ตั้งของ หอเสี่ยงทาย ในสมัยอดีตที่มีเพื่อทำพิธีหาสถานที่ก่อสร้างวัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร และจึงกลายเป็นที่มาของชื่อวัดหอเสี่ยงนั่นเองค่ะ จุดน่าสนใจของวัดคือ พระอุโบสถ หรือ สิม ขนาดเล็กแบบหลวงพระบาง และด้านในยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ซึ่งถูกค้นพบตั้งแต่สมัยที่ก่อนสร้างสิมขึ้น รวมถึงมีพระพุทธรูปไม้ปางอุ้มบาตรซึ่งหาชมได้ยากอีกด้วย